ประวัติ มาร์ติน โอเดการ์ด อดีตหางราชสีห์ สู่ดาวโรจน์ที่ปืนใหญ่ (Martin Ødegaard)

ประวัติ มาร์ติน โอเดการ์ด ย้อนกลับไปเกือบ 7 ปี ที่แล้ว มีเจ้าหนูที่มาจากนอร์เวย์นามว่า มาร์ติน โอเดการ์ด เป็นเจ้าหนูที่ขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในวัย 15 ปี ทำให้กลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามาองที่สุดในยุโรป ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจเลือกย้ายไปที่ เรอัล มาดริด ก่อนที่เจ้าตัวจะไม่ได้รับโอกาสและเงียบหายไป ก่อนที่เจ้าตัวจะได้รับโอกาสจาก ทัพ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล และผลิกอาชีพตัวเอง ในทางที่มันควรเป็นในที่สุด

ประวัติมาร์ตินโอเดการ์ด

ประวัติข้อมูลส่วนตัวของ มาร์ติน โอเดการ์ด

ชื่อ : มาร์ติน โอเดการ์ด (Martin Ødegaard)

เกิดวันที่ : 17 ธันวาคม 1998 (อายุ 24 ปี)

เกิดที่ : แดรมเมน, ประเทศนอร์เวย์

ส่วนสูง : 1.78 เมตร ( 5 ฟุต 10 นิ้ว )

ตำแหน่ง : กองกลางตัวรุก

สโมสรปัจจุบัน : อาร์เซน่อล

เราจะพาย้อนกลับไปชมจุดเริ่มต้นบนอาชีพค้าแข้ง ของทางเจ้าหนู มาร์ติน โอเดการ์ด ว่าชีวิตของเขานั้น เกือยไม่ได้เป็นนักฟุตบอลระดับท็อป ที่ผู้คนพูดถึงเหมือนในปัจจุบันนี้ เจ้าหนูชาวนอร์เวย์เกือบจะไม่ได้เป็นจอมทัพ ไอ้ปืนใหญ่ อย่างทุกวันนี้มาแล้ว 

จุดเริ่มต้นบนเส้นทางลูกหนังของ มาร์ติน โอเดการ์ด

ย้อนกลับไปเจ้าหนูชาวนอ์เวเจี้ยน อายุ 16 ปี มีนามว่า “มาร์ฺติน โอเดการ์ด” เขาเกิดเมื่อ วันที่ 17 ธันวาคม ปี 1998 ในครอบครัวชนชั้นกลาง โดยมีคุณพ่อเป็นอดีตนักฟุตบอล และเป็นโค้ชให้กับทีม ‘แดรมเมน สตรอง’ ในเมืองบ้านเกิดของเขา และเป็นสโมสรแห่งแรกที่โอเดการ์ด เริ่มต้นค้าแข้ง 

ด้วยพรสวรรค์ด้านฟุตบอลของเขา ที่โดดเด่นเหนือเด็กทุกคนในทีม เขาเล่นบอลได้อย่างพลิ้วไหว เทคนิคที่ไม่ธรรมดา ทักษะการครองบอลอันยอดเยี่ยม การกระชากแล้วตัดเข้าในพื้นที่แคบก็ทำได้ดี การจ่ายบอลก็แม่นยำราวกับจับวาง ทำให้ทีมดังอย่าง ‘สตรอมส์ก็อตเซท’ คว้าตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2009 ซึ่งเขาสามารถเข้ามาเป็นผู้เล่นชุดใหญ่ของสโมสรด้วยวัยเพียง 13 ปี กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในลีกนอร์เวย์ ทันที

อีกสองปีต่อมา โอเดการ์ด กลายเป็นเด็กพรสวรรค์แห่งยุค เขาลงเล่นให้สโมสรสตรอมส์ก็อตเซท ในลีกสูงสุดของนอร์เวย์ ตอนอายุ 15 ปี กับอีก 118 วัน และติดทีมชาติชุดใหญ่ของนอร์เวย์ ตอนอายุ 15 ปี กับอีก 235 วัน จากนั้นยิงประตูแรกให้ทีมชาติได้ในวัย 15 ปี กับอีก 300 วัน และด้วยความที่ถนัดเท้าซ้าย ทำให้ช่วงนั้นสื่อยุโรปต่างพากันปั้นฉายาให้เขาว่าเป็น เมสซี่แห่งนอร์เวย์บ้าง หรือ เมสซี่เจเนอเรชันใหม่บ้าง

ความเก่งของโอเดการ์ด โด่งดังอย่างรวดเร็ว ทำให้สโมสรในยุโรปต้องการได้ตัวเขามาร่วมทีม จนปลายปี 2014 มีมากกว่า 10 สโมสร อาทิ บาร์เซโลน่า , เรอัล มาดริด , บาเยิร์น มิวนิค , ปารีส แซงต์ แชร์กแมง , อาร์เซน่อล ติดต่อเข้ามาขอลายเซ็นแข้งรายนี้ไปร่วมทีม ร่วมไปถึงทีมที่เขาเชียร์มาตั้งแต่เด็ก และได้โอกาสเข้าไปร่วมฝึกซ้อมในศูนย์ฝึกเช่นกันอย่าง ลิเวอร์พูล 

แต่สุดท้าย โอเดการ์ด เลือกไปที่เรอัล มาดริด ซึ่งการเซ็นสัญญาเกิดขึ้นวันที่ 22 มกราคม 2015

แต่การเข้ามาอยู่ในถิ่น เรอัล มาดริด ไม่เป็นเหมือนฝัน หรือความคิดที่เขาคิดดั่งใจหวัง

อาจเป็นเพราะเขาเป็นแข้งดาวรุ่งที่เก่งที่สุดในโลก ทำให้มีความั่นใจสูง แต่ทุกอย่างไม่ได้สวยงามอย่างที่โอเดการ์ดคิดฝันไว้ เมื่อเขาไม่สามารถสอดแทรกผู้เล่นตัวจริงอย่าง โรนัลโด้ , เบล หรือ เบนเซม่า ที่เล่นได้อย่างลงตัวจนเป็นหนึ่งในสามประสานแดนหน้าที่ดีที่สุดของยุโรปในเวลานั้น  ดังนั้น เขาจึงถูกส่งไปเล่นให้ทีมสำรองอย่าง ‘กาสตีญ่า’ โดยมีซีเนอดีน ซีดาน เป็นเฮดโค้ชคุมทีมอยู่

แน่นอนว่า จากผู้เล่นตัวจริงแล้วโดนลงอยู่ในทีมสำรอง เป็นสิ่งที่โอเดการ์ดทำใจไม่ได้ เขาเริ่มทำตัวงอแง จากการมาซ้อมสาย หรือไม่มาซ้อมเลย รวมถึงการวางตัวกับเพื่อนในทีมสำรองก็ไม่คอยดีนัก

ยังมีข่าวว่า เขาไม่คอยให้ความเคารพซีดาน เฮดโค้ชของทีม ที่พยายามตักเตือนให้เขาทำตัวอย่างมืออาชีพ คือฝึกซ้อมให้นัก และพยายามทำผลงานให้ดีในทีมสำรอง

แต่โอเดการ์ไม่คอยสนใจสิ่งที่ซีดานตักเตือนมากนัก เขาไม่แคร์ว่าเพื่อนในทีมจะคิดอะไรอยู่ เขาคิดเพียงว่า ตัวเขามีความสามารถมากพอจะเล่นเคียงข้างกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในทีมชุดใหญ่ มากกว่าเป็นผู้เล่นในทีมสำรอง ที่มีซีดานเป็นเฮดโค้ช

เส้นทางชีวิตการค้าแข้งของ มาร์ติน โอเดการ์ด

จนตัวเขาได้ถูกปล่อยตัวออกไปหาประสบการณ์ ไปขัดฝีเท้าใหม่กับทั้ง ‘ฮีเรนวีน’ , ‘วิเทสส์ อาร์เนม’ ในลีกดัตช์  และ เรอัล โซเซียดัด ในลีกสเปน ทำให้เขาฝีมือของเขาพัฒนาขึ้นไปมาก เขากลายเป็นมิดฟิลด์ที่น่าจับตามองอีกครั้ง ด้วยรูปแบบการส่งบอลที่แม่นยำ และการอ่านเกมได้อย่างเฉียบขาด แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่ ราชัน ชุดขาว

การผจญภัยกับอาร์เซนอล เริ่มขึ้นหลังจากที่โอเดการ์ดไม่สามารถเอาชนะใจซีดาน ในการยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมเรอัล มาดริด ได้

ด้วยวัย 23 ปี เขาตัดสินใจอำลาถิ่นราชันชุดขาว แล้วย้ายซบอาร์เซนอล ทีมใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ด้วยสัญญายืมตัว เมื่อเดือนมกราคม 2021 ก่อนจะโชว์ฟอร์มประทับใจในตำแหน่งห้องเครื่องของทีม จนไอ้ปืนใหญ่ ตัดสินใจซื้อขาดในเดือนสิงหาคมของปีเดียวกัน ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ 

เขาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก ที่กลายเป็นจิ๊กซอว์ที่หายไปของอาร์เซนอล สามารถเล่นได้ยอดเยี่ยม ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ทำให้อาร์เซนอล ตัดสินใจประกาศแต่งตั้งให้โอเดการ์ดเป็นกัปตันทีมคนใหม่ ลุยศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำหรับเพลย์เมกเกอร์หนุ่มทีมชาตินอร์เวย์อย่างยิ่ง

โอเดการ์ด จึงถูกแฟนบอลเดอะกันเนอร์บางกลุ่ม ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงลบว่าเขาไม่เหมาะสมกับตำแหน่งกัปตันทีมอาร์เซนอล และยังคงสงสัยในความสามารถของกัปตันหนุ่มผู้นี้เสมอมา

แต่ไม่ว่าอย่างไร การที่อาร์เซนอล ประกาศแต่งตั้งให้โอเดการ์เป็นกัปตันทีม ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาให้ความสำคัญกับกองกลางรายนี้มากน้อยเพียงใด

แม้จะเคยล้มเหลว แต่โอเดการ์ดได้ทิ้งเรื่องราวเหล่านั้นไว้เพียงข้างหลังแล้วตอนนี้ ปัจจุบันนี้ เขากลายเป็นที่รักของแฟนบอลอาร์เซนอลอย่างไม่ต้องสงสัย

เขาเรียนรู้ที่จะลุกขึ้นสู้ใหม่อย่างถ่อมตน แล้วทิ้งอดีตเหล่านั้นไว้ข้างหลัง ด้วยการเริ่มต้นก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ จากสองขาที่มั่นคง และเต็มเปี่ยมด้วยพลังมหาศาล มันช่วยให้เขาได้เห็นรายละเอียดของชีวิตได้ชัดเจนขึ้น ได้รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมสำหรับตัวเขา เขายังพบว่า มีแต่การทำงานที่หนักเท่านั้น ที่จะนำพาความสำเร็จมาสู่ตัวเขาได้  รวมถึงระเบียบวินัยในการฝึกซ้อมก็สำคัญต่ออาชีพนักฟุตบอลเช่นเดียวกัน

ประวัติการเล่นในระดับสโมสรที่ผ่านมาของ มาร์ติน โอเดการ์ด

  • ฤดูกาล 2014–2015 สเตริมส์กุดเซิต ลง 23 นัด  ยิง 5 ประตู

    ฤดูกาล 2015–2017 เรอัล มาดริด กัสติยา ลง 58 นัด  ยิง 5 ประตู

    ฤดูกาล 2015–2021 เรอัล มาดริด ลง 8 นัด  ยิง 0 ประตู

    ฤดูกาล 2017–2018  → เฮเรินเฟน (ยืม) ลง 38 นัด ยิง 3 ประตู

    ฤดูกาล 2018–2019  → ฟีเตสเซอ (ยืม) ลง 31 นัด  ยิง 8 ประตู

    ฤดูกาล 2019–2020  → เรอัลโซซิเอดัด (ยืม) ลง 31 นัด  ยิง 4 ประตู

    ฤดูกาล 2021  → อาร์เซนอล (ยืม)  ลง 14 นัด  ยิง 1 ประตู

    ฤดูกาล 2021 – ปัจจุบัน   อาร์เซนอล  ลง 51 นัด  ยิง 14 ประตู

ผลงานส่วนตัวของ โอเดการ์ด

ทีมชาตินอร์เวย์

  • ผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่เล่นให้กับทีมชาตินอร์เวย์ชุดใหญ่ ด้วยอายุ 15 ปี 253 วัน
  • ผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในรอบคัดเลือกของฟุตบอลชิงแชมปแห่งชาติยุโรป

ติดตาม :: ประวัตินักกีฬา
ข่าวอื่นๆ :: เว็บข่าวบอล 
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง :: ประวัติ สมรักษ์ คำสิงห์
เพจข่าวกีฬา :: ข่าวกีฬา ตองสอง.com