ย้อนความทรงจำ จุดแตกหัก ปอล ป็อกบา

ย้อนความทรงจำ จุดแตกหัก ปอล ป็อกบา 

ปอล ป็อกบา2
ปอล ป็อกบา ยังครองสถิตินักเตะค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

หลังจากที่ดึงตัวกลับมาจากยูเวนตุส ในสนนราคาประมาณ 105 ล้านยูโร ในช่วงปี 2016 หลังจาก 4 ปีก่อนหน้านั้น พลพรรค “เบียงโคเนรี่” คว้าตัวป็อกบา มาจากทัพ “ปีศาจแดง” แบบไร้ค่าตัว 

จุดเปลี่ยนสำคัญของการย้ายออกจากถิ่น “โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” ในช่วงปี 2012 เกิดมาจากความไม่เข้าใจกัน ระหว่างตัวเขาครอบครัว และเอเย่นต์ส่วนตัว ที่มีกับบรมกุนซือผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสรอย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 

อย่างที่เราทราบกัน ป็อกบา ย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไร้ค่าตัวอีกครั้งในปีนี้ ถือเป็นการเสียฟรีครั้งที่ 2 เป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางกระแสดราม่ามากมาย โดยดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส บอกว่า สโมสรไม่พยายามมากพอ ในการยื่นสัญญาที่เหมาะสมแก่เขา

ช่วงนี้ เราลองไปย้อนความทรงจำกันหน่อยว่า ป็อกบา แยกทางกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครั้งแรกได้อย่างไร นั่นถือเป็นบทเรียนสำคัญที่พลพรรค “ปีศาจแดง” ต้องเจอ 

อนกลับไปปี 2009 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงตัวป็อกบา ในวัย 16 ปี มาร่วมทีมเยาวชน พร้อมกับปลุกปั้นเป็นอย่างดี โดยหวังว่านี่คือเพชรเม็ดงาม ที่จะเป็นอนาคตที่สดใสของสโมสร แน่นอนว่า ฝีเท้าของป็อกบา เริ่มฉายแสงออกมาทีละเล็กทีละน้อย จนโดดเด่นเกินเพื่อนร่วมรุ่นไปแล้ว 

การดึงตัวมาครั้งนั้น เลอ อาฟร์ ซึ่งเป็นสโมสรเดิมของป็อกบา ถึงกับฉุนขาดเลยทีเดียว พวกเขาออกโรงแฉแบบดุเดือดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขโมยป็อกบา ไปอย่างไม่ใสสะอาด โดยมองว่า นักเตะ และครอบครัว ไม่สามารถทนกลิ่นเงิน และผลประโยชน์ที่ทาง “ปีศาจแดง” มอบให้ได้ จนสองสโมสรถึงขั้นฟ้องร้องกันเลยทีเดียว

ผลงานของป็อกบา กับทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่ายอดเยี่ยมมาก หนึ่งในนั้นคือการเป็นตัวหลัก พร้อมกับพาทีมผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ ในปี 2011 ส่งผลให้ฤดูกาล 2011-12 เขาเริ่มมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ โดยเริ่มต้นกับฟุตบอลรายการเล็กก่อน นั่นคือการประเดิมเจอลีดส์ ยูไนเต็ด ในศึกลีก คัพ 

เวลานั้น ป็อกบา มีอายุ 18 ปีแล้ว เขามองว่าตัวเองมีศักยภาพมากพอ ที่จะมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่แล้ว อย่างไรก็ตาม มันสวนทางกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่มองว่า ป็อกบา ควรเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อนตะบี้ตะบันกับการลงสนามอย่างต่อเนื่องมากนัก

เขาออกมาย้อนความทรงจำในช่วงเวลานั้นว่า โค้ชบอกกับเขาว่า มีที่ว่างสำหรับเขา แต่ความจริงคือเขาไม่ได้ลงเล่นเลย นอกจากนี้ สโมสรยังให้เขาแยกซ้อมคนเดียวเป็นอาทิตย์ และถูกสั่งให้เข้าไปในยิมด้วย เพื่อเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เขาเลยบอกว่า ตัวเองเป็นนักฟุตบอล และต้องการลงสนาม 

ป็อกบา จำเป็นต้องรอเวลาจนถึงเดือนมกราคม 2012 ถึงจะได้สัมผัสประสบการณ์ในศึกพรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ส่วนมากก็หนักไปทางเป็นตัวสำรอง เขามีความคิดแล่นเข้ามาในหัวว่า เขาสมควรได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงบ้าง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

ดาวเตะฝรั่งเศส บอกว่า มันเกี่ยวกับเรื่องของความเชื่อใจกับผู้จัดการทีมอย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ดูเหมือนไม่อยากจะส่งเขาลงสนาม กระทั่งจุดแตกมาหักเกิดขึ้น ในเกมที่ “ปีศาจแดง” พบกับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส โดยตอนนั้น แผงกลางของทีมค่อนข้างมีปัญหาเลยทีเดียว

เขาปวดใจมากที่เขาไม่ได้ลงสนาม ทั้งที่แดนกลางต้องขาดนักเตะตัวหลักอย่างพอล สโคลส์ รวมถึงอีกหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กลับเลือกราฟาเอล ดา ซิลวา ที่เป็นแบ็ค ให้ขยับมาเล่นกองกลาง ร่วมกับอีกหนึ่งคนคือพาร์ค จี ซอง ผลสุดท้าย ทีมก็ต้องพบกับความพ่ายแพ้ไป 

ป็อกบา เสริมว่า เกมกับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เขานั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง พร้อมกับคิดว่ามันน่าจะเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะลงสนาม แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นคนกำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง เหตุการณ์นั้น ทำให้เขาหัวใจสลาย และไม่ต่อสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามด้วยย้ายไปยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัว แม้ว่าเฟอร์กี้ จะอยากรั้งเอาไว้แค่ไหนก็ตาม 

ไม่เพียงตัวของป็อกบา เท่านั้น ครอบครัวของป็อกบา ยังสนับสนุนความคิดเหล่านั้น คุณแม่ และพี่ชายของเขา ทำการยุให้เขาหนีออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับพิสูจน์ให้เห็นว่า สโมสรคิดผิดที่ไม่ให้โอกาสเขา ซึ่งยูเวนตุส ก็เป็นเวทีสำคัญที่ป็อกบา สามารถใช้พิสูจน์ตัวเองได้ 

ผลสุดท้าย กลายเป็นป็อกบา ที่สามารถทำได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยการยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมยูเวนตุส พร้อมกับมีส่วนร่วมกับการคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 4 สมัยติดต่อกัน รวมถึงแชมป์โคปปา อิตาเลีย 2 สมัยติดต่อกันด้วย และนั่นคือเหตุผลที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องยอมวอดวายถึง 105 ล้านยูโร  เพื่อดึงตัวป็อกบา กลับมายังถิ่นเก่าอีกครั้ง